20.00 น. พร้อมกัน ณ เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน TURKISH AIRLINES อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิโดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางทำผ่านขั้นตอนการตรวจคนออกนอกประเทศ
23.15น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เที่ยวบินที่ TK 69 (ใช้เวลาบินประมาณ 10.25 ชั่วโมง) เพลิดเพลิกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯ บริการ อาหารเช้าระหนว่างเที่ยวบินสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
06.10 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
09.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TK 1751
11.00 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองออสโล (Oslo) หรือ กรุงคริสเตียนเนีย นครหลวงที่ถูกสถาปนาขึ้นได้ไม่นาน แต่เบื้องหลังแห่งความศิวิลัยนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ย้อนหลังกว่า 900 ปี ในอดีตออสโล จัดเป็นเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรพรรดิไวกิ้งโบราณซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของพระจ้าฮาโรว์ แฟร์แอร์โดยใช้ระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านชม วิกเกอร์แลนด์พาร์ค หรือ สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ ความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก จุดที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือ เสาโมโนลิท (Monolith) ที่มีความสูงประมาณ 17 เมตร รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ เป็นรูปปั้นคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสานี้ เพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของชีวิต อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูป นำท่านชม ศาลาว่าการเมืองออสโล (Oslo City Hall) เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยลักษณะของอาคารหอคอยคู่ ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ออสโลฟยอร์ด (Oslofjord) นำท่านชม โรงละครแห่งชาติ (Oslo Opera House) หนึ่งในโครงการปรับปรุงบริเวณชายฝั่งของออสโล ให้เกิดเป็นพื้นที่ที่มีประโยชน์และการปรับผังการจราจรของ ชายฝั่งด้านตัวเมืองออสโล อิสระให้ท่านเลือกซื้อของฝากและช้อปปิ้ง ถนนคาร์ล โยฮันส์ เกท (Karl Johans Gate) ถนนสายช้อปปิ้งที่มี ชีวิตชีวา และมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของออสโลมีทั้งร้านค้า ร้านอาหารมากมายตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก CLARION HOTEL 4* หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
00.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองเลกเนส โดยสายการบิน Scandinavian Airline SK 4106 แวะเปลี่ยนเครื่องที่เมือง Bodo เป็นสายการบิน Wide roe WF 810 (ทั้งหมดใช้เวลาเดินทาง 2ชั่วโมง)
00.00 น. เดินทางถึง เมืองเลกเนส (LEKNES)
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่เกาะโลโฟเทน (LOFOTEN ARCHIPELAGO) ตั้งอยู่ที่แคว้นนอร์ด แลนด์ (Nordland) ประเทศนอร์เวย์ ออกเดินทางไปตาม ถนนสายธรรมชาติ เส้น E10 (Scenic Route) ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะโลโฟเทนนำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆ เชื่อมต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย หมู่เกาะโลโฟเทน(LOFOTENARCHIPELAGO) เป็นหมู่เกาะที่ประกอบขึ้นจากเกาะใหญ่ทั้งหมด 6 เกาะ แต่เกาะที่เป็นที่รู้จักของนักเดินทางและเป็นเกาะที่มีธรรมชาติอันสวยงามที่เราจะเดินทางกันมีทั้งหมดหลักๆ 5 เกาะคือ Austvagoy, Gimsoya, Vestvagoy, Flakstadoya, Moskenesoya ระหว่างทางจะผ่านชายหาดที่สวยงาม 2 แห่งคือ Haukland และ Uttakleiv ซึ่งเป็นหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลโฟเทน ที่นี่เป็นหาดที่มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายเป็นรูปร่างต่างๆ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Eliassen Rorbuer 4* หรือเทียบเท่า
จากนั้นช่วงค่ำให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการชมแสงเหนือ (Northern lights) ยามค่ำคืนในบริเวณรอบโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านซากิซอย (SAKRISØY) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่มีบ้านสี สันสดใสทาด้วยสีเหลืองอย่างแจ่มชัดซึ่งแตกต่างจากหมู่บ้านอื่นๆ ที่มักจะทาด้วยสีแดง หมู่บ้านซากิซอย (Sakrisoy) ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามกับภูเขาโอส์สตินด์ (Olstind) ซึ่งเป็นภูเขารูปร่างพีระมิดที่โด่งดังของโลโฟเทน อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บความประทับใจ จนได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้านไรน์เนอ (REINE) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา มีจุดแวะพักให้ถ่ายรูปสวยงามจำนวนมาก หมู่บ้านไรน์เนอ (REINE) ถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ สวยที่สุดบน โลโฟเทน จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้านออ (Å) เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (Norwegian Fishing Village Museum) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด (Cod Liver Oil Factory), ร้านเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ นำท่านแวะชมจุดชมวิวต่างๆ ทางด้านทิศใต้ของเกาะโลโฟเทน (South Lofoten) ซึ่งถือว่าพื้นที่ๆ สวยงามที่สุด จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนัสฟยอร์ด (Nusfjord) (50 กิโลเมตร) เมืองเล็กๆ ที่มีทัศนียภาพอันน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในหมู่เกาะลอฟโฟเทน อิสระให้ท่านเดินชม หมู่บ้านนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงได้รับการอนุรักษ์ ไว้อย่างดีเยี่ยมอีกแห่งของนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีกระท่อมชาวประมงทั้งสีเหลืองและแดง อีกทั้งยังอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ (UNESCO) อีกด้วย ให้ท่านได้มีเวลาเก็บภาพความประทับใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Eliassen Rorbuer 4* หรือเทียบเท่า
จากนั้นช่วงค่ำให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการชมแสงเหนือ (Northern lights) ยามค่ำคืนในบริเวณรอบโรงแรมที่พัก
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
08.00น. จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมืองทรอมโซ (Tromso)
11.30น. เดินทางถึง เมืองทรอมโซ (Tromso) เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่ที่สุด ในเขตอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) ทรอมโซ (Tromso) เป็นเสมือนประตูสู่ภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ และอยู่เหนือเส้นอาร์ติก เซอร์เคิล (66° 33' 38" องศาเหนือ) จึงมีโอกาสเกิดปรากฏการณ์แสงเหนือ (Aurora) ได้ในช่วงเดือนกันยายน-เมษายน ของทุกปี มีโอกาสพบแสงเหนือได้มากที่สุดเพราะเมือง Tromso นั้นตั้งอยู่ในจุดกึ่งกลางของเส้นวงแหวนแสงเหนือ
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
นำท่าน นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (Tromso Cable Car) เป็นยอดเขาสูงที่มีความสูง 421 เมตร มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกัน โดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ ชมภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง จากนั้นนำท่านชมมหาวิหารอาร์คติก (Arctic Cathedral) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก CLARION HOTEL THE EDGE 4* หรือเทียบเท่า
ช่วงค่ำ นำท่านทำกิจกรรมตามล่าหาแสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ซึ่งแสงออโรร่า (Aurora borealis) จะปรากฏเป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำ *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ โดยช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เป็นเดือนที่เหมาะสำหรับการชมออโรร่าทางซีกโลกเหนือ มักจะเกิดในช่วงเวลาสี่ทุ่มจนถึงเที่ยงคืน และ โปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม***
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
00.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองคีร์กเคเนส โดยสายการบิน ……… เที่ยวบิน
00.00 น. เดินทางถึง เมืองคีร์กเคเนส (Kirkenes) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือสุดของนอร์เวย์ ไกลจากเส้นอาร์กติก 400 ก.ม. และห่างจากชายแดนรัสเซียเพียง 15 ก.ม.หรือรู้จักกันในนามของนครหลวงแห่งทะเลบาเร้นซ์ บ้านหลากสีสันสไตล์นอร์วีเจียน เรียงรายชวนให้กดชัดเตอร์แบบรัวๆ และยังเป็นเมืองสุดท้ายของเส้นทางเรือสำราญเหนือสุดของนอร์เวย์ Hurtigruten
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู ขาปูยักษ์ บุฟเฟ่ต์
นำท่านสัมผัสประสบการณ์กับการจับปูยักษ์ (King Crab Safari)ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลก นำท่านนั่งรถลากเลื่อนโดยสโนว์โมบิล กิจกรรมที่สุดฮิตและถือกำเนิดขึ้นในปี 1996 โดยนั่งรถไปยังบริเวณทะเลสาบน้ำแข็งและเจาะช่องว่างเพื่อนำ ปูยักษ์ (RED KING CRAB) ขึ้นมา ปูยักษ์มีขนาดความโดยวัดจากก้ามปูยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่จะโชว์วิธีการจับปูยักษ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์และปรุงอาหารมื้อ พิเศษให้ท่านได้ ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ กันอย่างเต็มอิ่ม นำท่านเข้าชม Snow Hotel จะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวทำจากหิมะ ภายในตกแต่งด้วยการแกะสลักเป็นรูปต่างๆ สวยงาม และเตียงจะเป็นเตียงน้ำแข็งจริง และปูด้วยขนกวางเรนเดียร์ โดยจะมีการรักษาอุณหภูมิไว้ที่ -4 องศาเซลเซียส ซึ่งภายนอกอาจติดลบได้ถึง -30 องศาเซลเซียส อิสระให้ท่านเก็บภาพประทับใจ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก THON KIRKENS 4* หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองซาร์ริเซลก้า (Saariselka) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือ เขตแลปแลนด์ ของ ฟินแลนด์ เป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของแลปแลนด์ที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากที่สุด
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ท้องถิ่น
นำท่านสนุกกับกิจกรรม Reindeer Sled กวางเรนเดียร์ลากเลื่อน Reindeer สัตว์ขึ้นชื่อของฟินแลนด์ ให้ท่านได้สัมผัสกับความน่ารักของกวางเรนเดียร์ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ ชาวแลปแลนด์นิยมเลี้ยงไว้เพื่อใช้งานสำหรับลากเลื่อนให้ท่านได้ถ่ายรูปกับกวางเรนเดียร์ได้แบบเต็มอิ่ม
นำท่านชมฮัสกี้ฟาร์ม (Husky Safari) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของหรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ นำท่านสัมผัสความน่ารักและแสนรู้ของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ ซึ่งเป็นสุนัขที่แข็งแรง คล่องแคล่ว
จากนั้นนำท่านสู่โรงแรมที่พักคืนนี้ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์นอน โรงแรมสไตล์ Glass Igloo ประยุกต์มาจากที่พักอาศัยของคนพื้นเมืองดั้งเดิม หรือที่รู้จักกันบ้านเอสกิโม เป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์ทั้งในเรื่องของรูปทรงคล้ายโดมวงกลม ปัจจุบันนิยมสร้างเป็นที่พัก Glass Igloo ทุกห้องจะเป็นกระจก ท่านสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของแสงเหนือภายในห้อง อย่างสวยงาม อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก NORTHERN LIGHTS VILLAGE 4*หรือเทียบเท่า
อิสระให้ท่านทำชมแสงเหนือในห้องพัก แสงเหนือ (Northern lights) หรือ แสงออโรร่า (Aurora borealis) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่จะปรากฏในตอนกลางคืนยามที่ท้องฟ้าโปร่ง ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ซึ่งแสงออโรร่า (Aurora borealis) จะปรากฏเป็นแสงสีเขียวที่พาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำ *** การพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้ โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ โดยช่วงเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม เป็นเดือนที่เหมาะสำหรับการชมออโรร่าทางซีกโลกเหนือ มักจะเกิดในช่วงเวลาสี่ทุ่มจนถึงเที่ยงคืน และ โปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม***
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเคมิ (KEMI) เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวบอธเนีย (GULF OF BOTHNIA) บริเวณทางตอนเหนือของทะเลบอลติค (BALTIC SEA) แต่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่มีความสำคัญของแลปแลนด์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนเรือ
นำท่านล่องเรือตัดน้ำแข็งแซมโป ไอซ์เบรกเกอร์ (Sampo Ice Breaker) ล่องบนน้ำทะเล ซึ่งเย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็งหรือไอซ์เบรกเกอร์ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังที่สุดลำหนึ่งในโลก สร้างขึ้นในปี 1976 ได้ปลดประจำการแล้ว และนำมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆจากเรือทลายน้ำแข็งที่บดทลายมากว่า 30 ปีในเขตอาร์กติก นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่กับการลอยตัวในทะเลน้ำแข็งในทะเลบอลติก ด้วยชุดความร้อนพิเศษ (Warm Impermeable Survival Suits) ซึ่งปกป้องร่างกายท่านจากความเย็นอันหนาวยะเยือกที่ระดับต่ำกว่าลบยี่สิบองศาเซลเซียส พร้อมรับประกาศนียบัตรการมาเยือนทะเลน้ำแข็งกับทางเรือ
(หมายเหตุ : เรือตัดน้ำแข็งอาจเป็น Sampo Icebreaker หรือ Polar Icebreaker และเรือตัดน้ำแข็งอาจจะงดให้บริการ เนื่องจากสภาพอากาศ หรือมีปริมาณน้ำแข็งไม่เพียงพอในการล่องเรือ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม โดยไม่สามารถแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และ จำกัดความสูงของผู้เข้าร่วมกิจกรรมลงว่ายน้ำในบ่อน้ำกลางทะเล ต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 145 ซม. เท่านั้น) ได้เวลาอันสมควรนำท่านกลับสู่เมืองเคมิ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก SCANDIC KEMI 4*หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของฟินเเลนด์ ในเขตแลปแลนด์ ตั้งอยู่บนเส้น Arctic Circle หรือวงกลมละติจูด 66 องศาเหนือ ที่มีปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในช่วงฤดูร้อน (Midnight Sun) และปรากฏการณ์แสงเหนือ(Northern Light) ในช่วงฤดูหนาว นำท่านชมหมู่บ้านซานต้าครอส (Santa Claus Village) เป็นหมู่บ้านที่มีความสวยงามอย่างมากเพราะบรรยากาศที่จะเต็มไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี เเละมีบ้านอยู่เป็นสิบๆ หลัง ในรูปเเบบของบ้านพักชาวฟินน์สมัยก่อน ตั้งอยู่ในเมืองโรวาเนียมิ ทางตอนเหนือของฟินเเลนด์ ซึ่งเป็นดินเเดนที่มีความหนาวเย็น เเละอยู่บนเส้นศูนย์สูตรที่เส้น อาร์กติกเซอร์เคิล ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น The Official Hometown of Santa Claus หรือก็คือบ้านที่แท้จริงของคุณลุงซานต้า
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น ได้เวลาอันสมควรนำท่านสู่สนามบิน
15.25 น. ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยเที่ยวบิน TK 1750
21.10 น. เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี (แวะพักและเปลี่ยนเครื่อง)
01.55 น. เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบิน TURKISH AIRLINES เที่ยวบินที่ TK 68
15.20 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ
รายการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นหลัก
99/50 หมู่บ้านคาซ่า วิลล์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220