21.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทาง เคาเตอร์สายการรอยัลจอร์แดนเนียน
00.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนียนเที่ยวบินที่ RJ 181
05.50 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงอัมมาน แวะพักเปลี่ยนเครื่องเพื่อต่อไปยังสนามบินนานาชาติไคโร (กระเป๋าใบใหญ่รับ ณ สนามบินกรุงไคโร)
เวลาที่จอร์แดนช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง
07.30 น. ออกเดินทาง กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนียนเที่ยวบินที่ RJ 501
เวลาที่อียิปต์ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงไคโร ประเทศอิยีปต์ ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋า นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองไคโรไคโร...เมืองหลวงของประเทศอียิปต์และกลุ่มเมืองนครที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาไคโร มีความเกี่ยวข้องกับอียิปต์โบราณ เนื่องจากกลุ่มพีระมิดแห่งกีซาและเมืองโบราณอย่างเมมฟิสและแฮลิอูโปลิสตั้งอยู่ในภูมิภาคนี้ ไคโรตั้งอยู่ใกล้สามเหลี่ยมแม่น้ำไนล์
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ปิระมิดกีซ่า (The Great Pyramid of Giza) หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เช่น มหาปิระมิดคี (Cheops) ปิระมิดเคฟเฟร (Chephren) และปิระมิดไมครีนอส (Mycrenos) ชมสฟิงซ์ (Sphinx) ซึ่งมีหน้าที่เฝ้าวิหารและสุสานของกษัตริย์ เป็นเครื่องแสดงถึงอำนาจ ลำตัวเป็นสิงโตหมอบเพศผู้ มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาวประมาณ 73 เมตร สูง 20 เมตร แกะสลักจากหินปูนเพียงก้อนเดียวโดยใช้พระพักตร์ของฟาโรห์เคฟเฟร โดยที่บริเวณที่ราบสูงกีซ่านี้มีเพียงตัวเดียวเท่านั้น
** พิเศษ แถมขี่อูฐชมวิวโดยรอบฟรี!!***กรุณาทิปคนจูงอูฐ 1$, หากต้องการมุดใต้ปิระมิต กรุณาติดต่อไกด์หรือหัวหน้าทัวร์ หมายเหตุ อูฐ 1 ตัวขี่ได้ 2 คน
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมมฟิส (Memphis) ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอียิปต์ล่าง อียิปต์แบ่งเป็นสองอาณาจักร คือหุบเขาไนล์ และสามเหลี่ยมไนล์ แต่ราว 3000 ปีก่อนคริสต์ศักราช กษัตริย์แห่งหุบเขาไนล์ได้ชัยชนะเหนือกษัตริย์แห่งสามเหลี่ยมไนล์ และเพื่อให้สะดวกแก่การปกครองทั้ง 2 แห่ง จึงสถาปนาเมมฟิสเป็นเมืองหลวงเมืองหลวงเก่า แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญ ในการรวมอียิปต์บนและอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียว โดยฟาโรห์นาเมอร์ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ระหว่างทางท่านจะได้เห็นตัวฐานรากของสถานที่โบราณ และรูปแกะสลักจากหินที่ยังหลงเหลืออยู่ในระดับพื้นดิน
เข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเมมฟิส (Open Air Museum at Memphis) จัดแสดงรูปแกะสลักขนาดใหญ่ของฟาโรห์ Rameses II ที่ไม่สมบูรณ์เต็มองค์ มีความยาวจากมงกุฎถึงเข่า 11 เมตร นอนอยู่ในอาคาร (สันนิษฐานว่าถ้ารูปปั้นสมบูรณ์เต็มองค์จะมีความสูงราว 13-14 เมตร) แกะมาจากหินปูน และสลักในท่ายืน แต่ปัจจุบันล้มลงมานอนกองกับพื้น ซึ่งมีพระพักตร์อันงดงาม ซึ่งสลักด้วยช่างฝีมือชั้นเยี่ยมไว้ในอาคารโปร่งชมสฟิงค์ และ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 โดยแต่ละองค์จะสวมมงกุฎที่มีลักษณะแตกต่างกัน จากนั้นเดินทางต่อไปยังเมืองโบราณที่ใกล้กันอีกเมืองคือ ซัคคาร่า (Sakkara) เพื่อ ชมปิระมิดขั้นบันได (Step pyramids) เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็นสถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ซอเซอร์ และเป็นต้นแบบของปิรามิด พีระมิดแห่งแรกของโลก พีระมิดขั้นบันได (STEP PYRAMID) แห่งซัคคารา จากนั้นนำท่านเดินทางกลับไคโร
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
ที่พัก: Tolip Golden Plaza Cairo หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)
เช้าบริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) ระยะทาง 218 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมืองใหญ่เป็นอันดับสองรองจากกรุงไคโรเมืองหลวงของอียิปต์ราว 334 ปีก่อนคริสตกาล อเล็กซานเดรียเคยถูกสถาปนาให้เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ ภายหลังจากที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์เข้ามายึดครองและมีคำสั่งให้ปรับปรุงขยายเมือง อีกทั้งยังตั้งชื่อเมืองให้คล้องจองกับพระนามของพระองค์ และเป็นเมืองหลวงของอียิปต์นานเกือบหนึ่งพันปี ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมืองอเล็กซานเดรียที่อยู่เหนือสุดของอียิปต์ ติดริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้ปากแม่น้ำไนล์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ อีกทั้งยังได้สมญานามว่าเป็น “เมืองไข่มุกแห่งเมดิเตอร์เรเนียน”
นำท่าน ชมเมืองเก่าและเมืองใหม่ ชมหลุมศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs) สุสานโรมันใต้ดินคาตาคอมป์ ซึ่งเป็นหลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง เป็นสุสานของชาวโรมันในอดีต ซึ่งใช้เก็บศพมากกว่า 50,000 ศพ เป็นอุโมงค์ที่สร้างด้วยหินก้อนใหญ่และขุดลึกลงไปเป็นชั้นๆ สุสานแห่งนี้มี 3 ชั้น ชั้นล่างมีทางเดินติดต่อถึงกันตลอดประมาณ 100 กม. สร้างในศตวรรษที่ 2 ลึก 32 เมตรนับเป็นสุสานที่มีสภาพสมบูรณ์และสวยงามที่สุด ชมเสาปอม์เปย์ (Pompeii’s Pillar) ตั้งอยู่กลางชุมชนเมืองอเล็กซานเดรีย เสาปอม์เปย์ เป็นเสาที่แสดงถึงการฉลองชัยชนะของชาวโรมัน เป็นอนุสาวรีย์โบราณในสมัยโรมันเข้ามาปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร นับว่าเป็นเสาหินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมา
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม ป้อมปราการเก่าแก่ Fort of Qaitbay หนึ่งในป้อมขนาดใหญ่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สร้างเมื่อ ค.ศ.1479 เพื่อป้องกันการรุกรานทางทะเลทราย ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟาโรส ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและ มีการทะนุบํารงุต่อมาชม (ภายนอก) ห้องสมุดอเล็กซานเดรีย (Alexandria Library) หนึ่งในห้องสมุดเก่าแก่ที่เกิดขึ้นในยุคแรกๆของโลก มีหนังสือมากกว่า 8 ล้านเล่ม มีเก้าอี้มากกว่า 20,000 ที่นั่ง ภายในมีทั้งหนังสือยุคเก่าและยุคใหม่ตกแต่งอย่างสวยงามกว้างขวาง...นำท่านเดินทางกลับไคโร นำท่านชม การสาธิตวิธีทำกระดาษปาปิรุส (Papyrus Factory) กระดาษชนิดแรกของโลกซึ่งทำจากต้นกก (Kok) ใช้บันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้าและเหตุการณ์ในสมัยโบราณ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
ที่พัก: Tolip Golden Plaza Cairo หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)
เช้าตรู่ รับอาหารกล่อง – เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม
03.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินนานาชาติเมืองไคโรประเทศอียิปต์
06.00 น. ออกเดินทางไป อาบูซิมเบล โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS145 CAI-ASW-ABS
หมายเหตุ เครื่องแวะรับผู้โดยสารที่เมืองอัสวาน 30 นาที กระเป๋าเดินทางของคณะที่เช็คอิน จะถูกนำลงที่
เมืองนี้ โดยตัวแทนของบริษัทฯ จะรวบรวมไว้ รอคณะเดินทางกลับจากอบูซิมเบล
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินอาบูซิมเบล..
จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารอาบูซิมเบล มหาวิหารมรดกโลกสุดยิ่งใหญ่ของอียิปต์ ตั้งอยู่บนหน้าผาขนาดใหญ่ การสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำ จนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้พ้นน้ำ ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกาภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชา 3 ชั้นและมีรูปสลัก 4 องค์นั่ง อยู่ด้านหน้าวิหาร แต่ละองค์สูงเท่ากับตึก 8 ชั้นและทุกปีของเดือนกุมถาพันธุ์ และ ตุลาคม แต่ละปี ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก เล่ากันว่าวันที่ 20 ก.พ. ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 20 ต.ค. ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ
ชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Great Temple of Ramses 2) เป็นวิหารที่สำคัญ ด้านหน้าวิหารจะมีรูปสลักซึ่งมีพระพักตร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ตั้งอยู่ 4 องค์ตรงทางเข้า สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นที่บูชาแด่เทพอามุนรา (Amun Ra) ฮอรากาติ (Horakhati) และสร้างวิหารใกล้เคียงกันสร้างเป็นเกียรติแก่ราชินีเนเฟอร์ตารี (Nefertari) เดิมทีวิหารแห่งนี้ได้จมอยู่ใต้น้ำจากการสร้างเขื่อนอัสวาน ทางยูเนสโกได้ช่วยกู้วิหารนี้ตามแบบเดิมทุกตารางนิ้วคงสภาพไว้เหมือนเดิม …เดินทางไปสนามบินอาบูซิมเบล
11.35 น. ออกเดินทางไป อัสวาน โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS148 ABS-ASW
12.20 น. เดินทางถึง สนามบินอัสวาน..รับกระเป๋าสัมภาระ..เดินทางสู่ท่าเรือแม่น้ำไนล์
จากนั้นนำท่านลงเรือสำราญ “ระดับ Deluxe Cruise”
การล่องเรือแม่น้ำไนล์ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่วิเศษมาก ในอียิปต์ และได้เห็นวิถีชีวิตสองข้างแม่น้ำ เรือมีความสูงเทียบเท่าตึกแถว 5 ชั้น และ วิ่งอยู่บนแม่น้ำไนล์ เรือเทียบท่า ช่วงเช้าและเย็น เพื่อเข้าไปเที่ยวตามวิหารที่อยู่ริมน้ำ เวลากลางวันเรือจะล่องไปเรื่อยๆ เราจะใช้เวลาในห้องส่วนตัว หรือร่วมกิจกรรมต่างๆบนเรือ หรือใช้เวลานี้ส่องภาพวิถีชีวิตตามสองฝั่งแม่น้ำไนล์ ** Nile Cruise เรือแต่ละลำมีความหรูหรา ของเรือไม่เท่ากัน บนเรือมีร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ที่ออกกำลังกาย สปา โซนอาบแดดและร้านค้า ที่พัก อาหาร และขนมว่างยามบ่ายบนเรือ เรือเทียบท่าเมื่อถึงสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น
กลางวัน บริการอาหารกลางวันบนเรือ (บุฟเฟต์)
16.00 น. พิเศษ ..!! แถมนั่ง เรือเฟลุกกะ (Felucca) ซึ่งเป็นเรือใบเสาเดี่ยว สไตล์อียิปต์ แล่นด้วยแรงลมพัดโบราณล่องเรือชมวิวทิวทัศน์อันงดงามหน้าเมืองอัสวานรอบเกาะช้าง Elephantine ลมพัดเย็นสบายตลอดทาง ผ่านชม Agha Khan Mausoleum สุสานอากาข่านเป็นประมุขของศาสนาอิสลามผู้ล่วงลับบนยอดเขาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำชมพระอาทิตย์ยามตกดินที่แสนจะโรแมนติด สมควรแก่เวลานำท่านกลับเรือ
จากนั้นนำท่านเดินชม ตลาดเมืองอัสวาน (Aswan Bazaar) ชมวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองอัสวานเลือกซื้อของตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำบนเรือ (บุฟเฟต์)
ที่พัก: พักบนเรือล่องแม่น้ำไนล์ หรือเทียบเท่า (คืนที่ 3)
เช้า บริการอาหารเช้าบนเรือ (บุฟเฟต์)
จากนั้น นำท่านชม เขื่อนอัสวาน (Aswan Dam) เป็นเขื่อนหินขนาดใหญ่สร้างขึ้นในปี คศ. 1960 สร้างเพื่อกั้นแม่น้ำไนล์ เพื่อช่วยให้มีน้ำหล่อเลี้ยงไร่นาตลอดปี อีกทั้งยังใช้พลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งประเทศ และเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วมจากแม่น้ำไนล์เวลาฝนตกหนัก
นำท่าน นั่งเรือมอเตอร์ไปยังวิหารฟิเลย์ (Philae) วิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส (Isis) ในอดีตวิหารเคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการสร้างทำนบกั้นน้ำ และย้ายหินทีละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกีย แทนที่ตั้งเดิม นำท่านเข้าสู่ที่พักเรือแม่น้ำไนล์
กลางวัน บริการอาหารกลางวันบนเรือ (บุฟเฟต์)
จากนั้นเรือออกเดินทางสู่เมืองคอมออมโบ เมื่อเรือเทียบท่าแล้ว นำท่านชมวิหารคอมออมโบ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าสององค์คือ เทพโซเบค มีเศียรเป็นจระเข้ วิหารแห่งนี้อยู่ด้านขวามือ ส่วนวิหารทางด้านซ้ายบูชาเทพฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยว เทพเจ้าแห่งการต่อสู้และความกล้าหาญ ถัดไปจากทางซ้ายมือ จะเห็นบ่อน้ำที่มีปากบ่อเป็นรูปกุญแจโบราณหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Key of life สร้างขึ้นมาด้วยภูมิปัญญาของคนโบราณเอาไว้ใช้วัดความสูงของแม่น้ำไนล์เพื่อเก็บภาษีประจำปี วิหารนี้เกือบเป็นวิหารอะโครโพลิสของกรีก หินที่ใช้สร้างแตกต่างกับวิหารอื่นๆ อาจเป็นเพราะถูกปกคลุมด้วยทรายเป็นเวลานาน การวางแบบของพื้นที่แปลกและเฉพาะตัว เป็นวิหารของเทพเจ้าสององค์คือ เทพโซเบค เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่เศียรเป็นจระเข้ และ เทพเจ้าฮาโรเอริส เทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ วัดนี้จึงบูชาเทพโซเบกซึ่งมีหัวเป็นจระเข้ และมีจระเข้มัมมี่เก็บรักษาไว้ ชมภาพแกะสลักพระนางคลีโอพัตรา ซึ่งเป็นรูปแบบของเครื่องแต่งกายในการทำภาพยนตร์ และภาพแกะสลักที่สำคัญ คือภาพแกะสลักการ แพทย์แผนโบราณโดยเฉพาะภาพการคลอดลูกของหญิงอียิปต์โบราณและปฏิทินโบราณมีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ตลอดแนวท่าเรือขายเสื้อผ้าและสินค้าพื้นเมือง...จากนั้นนำท่านกลับสู่เรือ...เรือออกเดินทางสู่เมืองเอ็ดฟู
ค่ำ บริการอาหารค่ำบนเรือ (บุฟเฟต์)
ที่พัก: พักบนเรือล่องแม่น้ำไนล์ หรือเทียบเท่า (คืนที่ 4)
เช้า บริการอาหารเช้าบนเรือ (บุฟเฟต์)
นำท่านชม วิหารเอ็ดฟู (Edfu) (เมื่อเรือมาถึงวิหารคณะต้อง นั่งรถม้า สู่วิหารประมาณ 10 นาที รถม้า 1 คน นั่งได้ 4 ท่าน) วิหารสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าฮอรัส ซึ่งสร้างด้วยหินสีดำ ในสมัยพระนางคลีโอพัตรา เมื่อประมาณเกือบ 2,000 ปีมาแล้ว
พิเศษ ..!! แถม นั่งรถม้าชม วิหารเอ็ดฟู ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็น วิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพเจ้าฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลา นาน ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้า และสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม สมควรแก่เวลาเดินทางกลับเรือ
(กรุณาทิปคนขับรถม้าท่านละ US$ 1)
ล่องเรือผ่านชม วิหารเอสนา (Esna Temple) สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าคนุมที่มีเศียรเป็นแกะ วิหารเอสนาเริ่มสร้างในสมัยกษัตริย์ทุทโมซิสที่ 3 ในสมัยราชวงศ์ที่ 18
หมายเหตุ ท่านสามารถชมเวลาเรือผ่าน Esna Lock ประตูปรับระดับน้ำ เมื่อเรือเข้าล็อค ประตูจะปิดด้านหลัง และระดับน้ำในล็อคจะถูกปรับให้ตรงกับระดับของแม่น้ำฝั่งท้ายน้ำที่เรือจะออก และสามารถแล่นออกไปได้เมื่อประตูฝั่งท้ายเปิดออก
เรือแล่นสู่ เมืองลัคซอร์ (Luxor) ซึ่งเดิมชื่อ “ธีบส์” เป็นเมืองหลวงเก่าปกครองโดยราชวงศ์ที่ 18 -19 ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำไนล์พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโบราณ สถาน มีประวัติมากว่า 3,000 ปี ทั้งยังได้รับการยกย่องเป็น “พิพิธภัณฑ์เปิดโล่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก” เป็นที่ตั้งของหุบผากษัตริย์ หุบผาราชินี สุสานของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์รวมถึงสุสานของฟาโรห์ตุตันคามุน มีวิหารที่สวยงามที่สร้างเพื่อบวงสรวงเทพเจ้า อาทิ มหาวิหารคาร์นัค วิหารลักซอร์
ค่ำ บริการอาหารค่ำบนเรือ (บุฟเฟต์)
ที่พัก: พักบนเรือล่องแม่น้ำไนล์ หรือเทียบเท่า (คืนที่ 5)
05.00 น. หากท่านสนใจขึ้นบอลลูนลอยฟ้าซื้อเพิ่มท่านละประมาณ .... USD กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์
เช้า บริการอาหารเช้าบนเรือ (บุฟเฟต์)
จากนั้น ออกเดินทางโดยรถยนต์เพื่อเที่ยว ชมเมืองลัคซอร์ ชม เขตเวสต์แบงค์ (West Bank) หรือเมืองทางฝั่งตะวันตกของแม่นํ้าไนล์ (ฝั่งคนตาย) ชม อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน (Colossi of Memnon) รูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป มีความสูงถึง 20 เมตรซึ่งสมัยก่อนเป็นวิหารที่ใช้ฝังพระศพของฟาโรห์อเมนโนฟิสที่ 3 แต่เมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทำให้ตัววิหารทั้งหลังพังลงมา เหลือเพียงรูปสลัก 2 รูป
จากนั้นนำท่านไปชม หุบผากษัตริย์ (Valley of The Kings) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 62 พระองค์ แยกตามสุสานต่างๆในบริเวณหุบผา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าผาธีบัน ที่บริเวณนี้เป็นภูเขาหินทรายสีแดง ในแต่ละสุสานต้องใช้การขุดเจาะภูเขาเข้าไปทำเป็นช่องทางลับภายใน จะทำทางเดินเป็นช่วงๆ และทำเป็นห้องสำหรับวางโลงศพ สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของฟาโรห์ ชมความอัศจรรย์ของภาพวาดตามผนังจากสีธรรมชาติที่มีอายุเป็นพันๆปีจากยุคฟาโรห์แต่ยังคงความสวยงามไว้จนถึงยุคปัจจุบันนี้ นำท่านเข้าชม3สุสานที่สวยที่สุดและสมบรูณ์ที่สุด
หมายเหตุ สุสานสร้างเมื่อฟาโรเริ่มครองราชย์ และจะหยุดสร้างเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชน ดังนั้นสุสานยิ่งลึก แสดงว่าฟาโรห์ครองราชย์นาน
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม เขตตะวันออก (East Bank) หรือเรียกว่าฝั่งคนเป็น
ชม วิหารลักซอร์ เป็นวิหารทรายเนื้อละเอียดที่ใหญ่มาก ตั้งอยู่ทางใต้และมีขนาดเล็กกว่าวิหารคาร์นัค สร้างสำหรับบวงสรวงพระผู้เป็นเจ้า มีบางส่วนเหมือนกับวิหารคาร์นัค ในสมัยโบราณเคยมีเสาโอเบลิสก์ตั้งอยู่สองต้นเคียงกันที่หน้าวิหาร ปัจจุบันเสาต้นหนึ่งถูกนำไปตั้งไว้ที่จัตุรัสคองคอร์ด กรุงปารีส เพื่อเป็นของขวัญแด่กษัตริย์นโปเลียนหลุยส์ของฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1835 มีรูปขนาดเท่ากันยืนเรียงโดยรอบ ภายในชมรูปปั้นเต็มตัวของฟาโรห์ตุตันคามอนและมเหสี ขนาดเท่ากัน (ปรกติโดยทั่วไปคนอียิปต์โบราณจะสร้าง รูปปั้นฟาโรห์ใหญ่กว่ามเหสี เพื่อแสดงอำนาจเหนือกว่ามเหสี) สมัยฟาโรห์รามเสสที่ 2 พระองค์ได้โปรดให้สร้างอุทยานหน้าวิหารนี้ไป 3 กิโลเมตร ตกแต่งด้วยรูปปฏิมากรรม ทำด้วยหินแกรนิตควอร์ทไซด์ ชม เสาโอบิลิสก์ เสาบูชาสัญลักษณ์แห่งสุริยเทพ หมายถึงความสว่างและชีวิต ตรงข้ามกับปิรามิด อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความไร้วิญญาณ การสร้างเสาโอบิลิสก์นิยมสร้างเป็นคู่ ลักษณะเป็นทรงยอดแหลมที่ตัดมาจากหินแกรนิตทั้งต้น มิใช่นำหินแต่ละก้อนมาประกอบกัน ทางเดินจะตรงเป็นแนวนับจากประตูทางเข้า ไปจนถึงห้องบูชาเทพเจ้าด้านในสุด ซึ่งมีเพียงฟาโรห์เท่า นั้นที่เข้าได้ เสาแห่งนี้มีปาฏิหาริย์โดยครึ่งบนมีสีขาวซีด ครึ่งล่างเป็นสีเหลืองนวล เชื่อว่าตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากเสานี้ จะสัมฤทธิ์ผลดังใจปรารถนา ชม มหาวิหารคาร์นัค (The Temple of Karnak) เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปี มาแล้ว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร...นำท่านเดินทางสู่สนามบินลัคซอร์
19.45 น. ออกเดินทางไป ไคโร โดยสายการบิน อียิปต์แอร์ เที่ยวบินที่ MS69 LXR-CAI
20.55 น. เดินทางถึง สนามบินไคโร…รับกระเป๋าสัมภาระ
ที่พัก: Tolip Golden Plaza Cairo หรือเทียบเท่า (คืนที่ 6)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ ฟัยยูม โอเอซิส (FAYOUM OASIS) ระยะทาง 116 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง มีการคาดการณ์ว่าโอเอซิสแห่งนี้ เป็นโอเอซิสที่ถูกขุดขึ้นมาใน สมัยฟาโรห์ที่ 12 เพื่อใช้ในการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง เป็นโอเอซิสที่มีขนาดใหญ่ และมีลำคลองหลายแขนงเชื่อมกับแม่น้ำไนล์ จุดเด่นของที่นี่คือกังหันน้ำ ที่ตั้งอยู่ตามแนวชายคลองต่าง ๆ ในพื้นที่
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน (บรรยากาศกลางทะเลทราย)
นำท่านเปลี่ยนรถเป็น 4WD พร้อมคนขับ (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) 1 คัน / 6 ท่าน ท่านจะได้สนุกสนานและตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมสัมผัสกับประสบการณ์นั่งรถตะลุยไปบนทะเลทราย นำท่านชมแหล่งน้ำตกกลางทะเลทราย Wadi El Rayan Waterfalls และ ทะเลสาบ Magic Lake ชมซากวาฬ Whale Fossils และฟอสซิสของไดโนเสาร์ที่อาศัยในทะเล…ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับไคโร
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: Tolip Golden Plaza Cairo หรือเทียบเท่า (คืนที่ 7)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่าน ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ ออกแบบโดยโดยสถาปนิคชาวฝรั่งเศส ชื่อ มาร์เซล โดน่อน ผู้ชนะเลิศการแข่งขันระหว่างประเทศ เป็นสถานที่เก็บสะสมโบราณวัตถุที่เก่าแก่และล้ำค่ามากมาย ครอบคลุมตั้งแต่ก่อนยุคประวัติศาสตร์จนกระทั่งยุคจักรวรรดิโรมันมากกว่า 120,000 ชิ้น เก็บรวบรวมและจัดแสดง เล่าเรื่องราวความเป็นมาของอารยะธรรมอียิปต์โบราณอันรุ่งเรืองไว้ได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะไฮไลท์ ห้องจัดแสดงสมบัติอันล้ำค่าขององค์ฟาโรห์ตุตันคาเมน รวบรวมเครื่องใช้ต่างๆของฟาโรห์อย่างครบครัน ชมโลงศพทองคำแท้หนัก 110 ก.ก. พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน หนัก 11 ก.ก. และ สมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ เช่น เตียงบรรทม, รถศึก และเก้าอี้บัลลังก์ทองคำ ชมรูปปั้นดินที่แสดงถึงชีวิตประจำวันของชาวอียิปต์ ชมพระเศียรของพระนางเนเฟอร์ติติ 1 ใน 2 ชิ้นที่มีชื่อของโลก (อีกชิ้นอยู่ที่เบอร์ลิน) ชมพระรูปของฟาโรห์อัคนาแตน-ฟาโรห์นักปฏิวัติ ชมพระรูปของพระนางฮัตเชปสุต (ฟาโรห์สตรีองค์เดียวของอียิปต์) นอกจากนี้ท่านยังได้ชมสมบัติ
อันล้ำค่าอื่นๆ เช่น แหวน, สร้อยข้อมือ, สร้อยคอ ฝีมือประณีต ล้วนมีอายุกว่า 3,300 ปี สัมผัสความยิ่งใหญ่แห่งศาสตร์ การเตรียมตัวหลังความตายของชาวอียิปต์ หรือ การทำมัมมี่ (Mummy) ชมมัมมี่ของคนและสัตว์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมร่วมค้นหาคำตอบแห่งปริศนาคัมภีร์มรณะ นำท่านชม สุเหร่าโมฮัมหมัดอาลี (Ali Mosque) ซึ่งเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1830 และเสร็จในปี ค.ศ. 1857 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีกในแบบตามอย่างออตโตมัน หรือตุรกีใน ปัจจุบัน ภายในมีนาฬิกาบนลานในสุเหร่าซึ่งเป็นของขวัญในการแลกเปลี่ยนกับอนุสาวรีย์ปลายแหลมโอบิลิสก์ของรามเซส ที่สอง เพื่อสร้างสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างอียิปต์ฝรั่งเศสพร้อม ชมวิวของเมืองไคโรจากมุมสูง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดข่าน เอล คาลิลี่ (Khan El Khalili Bazaar) หลากหลายด้วยร้านค้า เครื่องเทศ เครื่องเงิน, ร้านทอง, เสื้อผ้า ตลาดใหญ่ในอียิปต์ เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในอียิปต์ มีของฝากของขายมากที่สุด มีตรอกซอกเล็กซอกน้อยให้เดินเล่นช้อปปิ้ง ตลาดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1382 หรือประมาณ 6 ร้อยกว่าปีเลย...อิสระให้ท่านเลือกชมสิ่งของมากมาย...จนถึงเวลานัดหมาย อิสระอาหารค่ำเพื่อสะดวกแก่การเชคเข้าสนามบิน
19.55 น. ออกเดินทางไป อัมมาน โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนียน เที่ยวบินที่ RJ 506
22.15 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน…รอต่อเครื่องบิน
02.15 น. ออกเดินทางไป กรุงเทพฯ โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนียน เที่ยวบินที่ RJ 182
14.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูม โดยสวัสดิภาพ
เงื่อนไขการเดินทาง
99/50 หมู่บ้านคาซ่า วิลล์ ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220